BTC-e ถูกปิดเพราะเป็นแหล่งฟอกเงินให้กับเหล่าคนทำ Ransomware
ตำรวจ Greek ได้นำกำลังเข้าจับนาย Alexander Vinnik อายุ 38 ปี ชาวรัสเซีย เจ้าของเว็บไซด์สำหรับการแลกเงิน Bitcoin ที่ชื่อว่า BTC-e จากการเข้าจับกุมดังกล่าว ทางกระทรวงยุติธรรมของ US ได้แจ้งข้อหาจับนาย Vinnik ถึง 21 กระทงเกี่ยวกับการฟอกเงินและการกระทำเกี่ยวกับแลกเปลี่ยนเงินใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากที่มีการให้ข้อมูลจำนวนมากว่า BTC-e ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือของเหล่าผู้เขียน Ransomware สำหรับการนำเงิน Bitcoin แปลงไปเป็นเงินสกุลต่างๆ ซึ่งถือเป็นช่องทางหลักในการฟอกเงินของเหล่า Hacker เลยก็ว่าได้
จากคำฟ้องร้องของยุติธรรมกล่าวหาว่านาย Vinnik นั้นเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการการฟอกเงินที่ได้จากการแฮ็คสกุลเงิน Crypto ที่ชื่อว่า Mt. Gox โดย Mt. Gox ได้ถูก hack ไปเมื่อ 2014 และ Hacker ได้เงินไปประมาณ $475 ล้าน, ทำให้ platform ดังกล่าวล้มลงในเวลาต่อมา ซึ่งทำให้ user ต่างๆก็ได้รับผลกระทบไปด้วยโดยปริยาย
กลุ่มที่เป็น Security Specialist Bitcoin ที่เรียกตัวเองว่า WizSec ได้ทำการเปิดเผยผลการตรวจสอบออกมาแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยงโยงในการฟอกเงินจากเหตุการณ์ดังกล่าว WizSec เชื่อว่า Vinnik เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการดังกล่าวจากการแฮ็คในสกุลเงิน Crypto อื่นๆอย่าง Bitcoinica, Bitfloor, และอื่นๆที่ตอนนี้ยังไม่เป็น platforms. อีกด้วย
จากการฟ้องร้อง ทำให้ทราบเพิ่มเติมว่า BTC-e นั้นถูกใช้ฟอกเงินจาก Ransomware ที่ชื่อว่า CryptoWall อีกด้วย อีกทั้งในงาน Blackhat USA 2017 ทาง Google Security Engineer ยังบอกว่า 95% ของการจ่ายเงินที่เป็น Bitcoin จะถูกนำมาเปลี่ยนเป็นนามสกุลจริงๆ ซึ่งมีทั้งจากการเรียกค่าไถ่ด้วย Locky, Cerber, NotPetya, WannaCry, Spora, และอื่นๆถึง 34 ประเภท